Saturday, March 26, 2011

เรื่อง “ บุคคลผู้เป็นสุข ” ตอน 8 จาก “ มธ.5:3-11 ”

บุคคลผู้เป็นสุข                                                                                  -42-                                                             โดย ศจ.นิรุทธิ์   จันทร์ก้อน

รื่อง บุคคลผู้เป็นสุข ตอน 8 จาก มธ.5:3-11

                มธ.5:3-11               บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลมบุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดกบุคคลผู้ใดหิวกระหาย ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบบุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้าบุคคลผู้ใดสร้างสันติ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาว่าเป็นบุตรบุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขาเมื่อเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข
                พระวจนะในตอนนี้ เป็นลักษณะของบุคคลผู้เป็นสุข เป็นแนวทาง เป็นเคล็ดลับ เป็นกุญแจ เป็นหนทางที่จะช่วยให้เราดำเนินชีวิตอย่างเป็นสุข ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ โดยมีรายละเอียดทั้งหมด 9 ประการ

บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 1 (มธ.5:3) บุคคลผู้ใดรู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุขเพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา
บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 2 (มธ.5:4) บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลม
บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 3 (มธ.5:5) บุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก
บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 4 (มธ.5:6) บุคคลผู้ใดหิวกระหายความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์
บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 5 (มธ.5:7) บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบ
บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 6 (มธ.5:8) บุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้า
(สอนรายละเอียดไปแล้วในตอนที่ 1-7)

บุคคลผู้เป็นสุข ประการที่ 6 (ต่อจากตอนที่แล้ว)
มธ.5:8ก                  บุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข
1. เราต้องมีใจบริสุทธิ์ เพราะพระเจ้าทรงเป็นองค์บริสุทธิ์
2. นิยามความสุข

3. เขาจะได้เห็นพระเจ้า
มธ.5:8ข                  ...เพราะว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้า
ผู้ที่มีใจบริสุทธิ์ เป็นสุข เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า

3.1 การเห็นพระเจ้า ไม่ได้เห็นด้วยตาเนื้อ แต่เห็นด้วยตาใจฝ่ายวิญญาณ
เหมือนเรามองไม่เห็นรังสี แสง หรือคลื่น แต่ทั้งหมดมีอยู่จริง
พระเจ้าก็เช่นกันดำรงพระชนม์อยู่จริง แต่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาฝ่ายร่างกาย
เพราะพระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ เราจึงมองเห็นพระองค์ไม่ได้
ยน.4:24                  พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ และผู้ที่นมัสการพระองค์ ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง
1ทธ.6:16            พระองค์ผู้เดียวทรงอมตะ และทรงสถิตในความสว่างที่ซึ่งไม่มีคนใดจะเข้าไปถึงผู้ซึ่งมนุษย์ไม่เคยเห็น และจะเห็นไม่ได้ พระเกียรติและฤทธานุภาพอันถาวรจงมีแด่พระองค์นั้น อาเมน
ยน.1:18              ไม่มีใครเคยเห็นพระเจ้าเลย พระบุตรองค์เดียวผู้ทรงสถิตอยู่ในพระทรวงของพระบิดา พระองค์ได้ทรงสำแดงพระเจ้าแล้ว
ไม่มีใครมองเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเราอยากรู้ว่าพระองค์เป็นอย่างไร ให้มองดูพระเยซูคริสต์ และมองดูที่พระคัมภีร์
พระคัมภีร์กล่าวว่าอย่างไร ให้เชื่ออย่างนั้น
อย่าจำกัดพระเจ้าด้วยความจำกัดของมนุษย์ คนจะเกิดต้องอาศัยคน แต่พระเจ้ามาบังเกิด ไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้ใด
ไม่มีอะไร สิ่งใด วิธีการใด ทำให้พระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ หรือทรงฤทธิ์
พระองค์เป็นเช่นนั้นด้วยตัวของพระองค์เองอยู่แล้ว

3.2 การได้เห็นพระเจ้า คือ เห็นการช่วยกู้จากพระองค์
ถ้าเรามีใจบริสุทธิ์ มีใจสะอาดต่อพระเจ้า เช่น วางใจแม้ไม่เข้าใจ
เราจะเห็นพระเจ้าแน่ โดยเห็นผ่านการช่วยกู้เราจากปัญหา

ยน.2:1-10               พระเจ้าทำการอัศจรรย์โดยเปลี่ยนน้ำ เป็นเหล้าองุ่นอย่างดี
คนใช้ในงานสมรสนั้น เชื่อฟังสิ่งที่พระเยซูคริสต์สั่ง โดยไม่สงสัย
(เมื่อน้ำองุ่นที่เตรียมไว้หมด พระเยซูสั่งให้คนใช้ไปตักน้ำใส่โอ่งให้เต็ม)
เขาจึงได้เห็นการอัศจรรย์จากพระเจ้า ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่พระองค์ ไม่สามารถทำได้
ดังนั้น เห็นพระเจ้า จึงหมายถึง เห็นการสำแดงจากพระองค์

สดด.91:14             เพราะเขาผูกพันกับเราด้วยความรัก เราจะช่วยกู้เขา เราจะป้องกันเขาไว้ เพราะเขารู้จักนามของเรา
ถ้าเราผูกพันกับพระเจ้าด้วยความรัก เราจะเห็นการช่วยกู้จากพระองค์
พระเจ้าจะช่วยกู้เรา พระเจ้าจะป้องกันเราไว้ ... สิ่งนี้เป็นประสบการณ์ของแต่ละคนกับพระเจ้า
เรือจมก็ต้องกู้ขึ้นมา ชีวิตของเราก็มีโอกาสที่จะจมเช่นกัน พระเจ้าจึงเข้ามากู้
หลายครั้งเรารู้ดีว่าด้วยกำลังของมนุษย์ไม่สามารถทำได้ ต้องเป็นกำลังของพระเจ้าเท่านั้น

ใจบริสุทธิ์ ไม่ได้หมายถึง จะไม่เคยพูดผิด คิดผิด หรือทำผิด
แต่เราต้องตั้งใจเดินเข้าสู่ถนนของความสมบูรณ์ ต้องสะอาดและบริสุทธิ์ขึ้นทุกวัน

สดด.37:23-26      ถ้าพระเจ้าทรงนำย่างเท้าของมนุษย์คนใด และคนนั้นพอใจในมรรคาของพระองค์ แม้เขาล้ม เขาจะไม่ถูกเหวี่ยงลงเหยียดยาว เพราะว่าพระหัตถ์พระเจ้าพยุงเขาไว้ ข้าพเจ้าเคยหนุ่มและเดี๋ยวนี้แก่แล้ว แต่ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นคนชอบธรรมถูกทอดทิ้ง หรือลูกหลานของเขาขอทาน เขาแจกจ่ายอย่างกว้างขวางและให้ยืมเสมอ และลูกหลานของเขาก็เป็นคำพร
การช่วยกู้ การช่วยเหลือจากพระเจ้าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่จะได้รับจากพระเจ้า
ผู้ที่มีใจบริสุทธิ์ เท่านั้น จึงจะเห็นได้
แข่งอะไรก็แข่งกันได้ แต่เรื่องพระพรของพระเจ้าเราแข่งกันไม่ได้
พระเจ้าทรงยุติธรรม เราติดสินบนพระเจ้าไม่ได้ ใครมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นก็รับพระพรจากพระองค์

3.3 การได้เห็นพระเจ้า คือ เห็นการสำแดงความรอด (คำสัญญา)
สิ่งที่เราจะได้เห็น คือ พระเจ้าทรงรักษาพระสัญญา
พระองค์ทรงสัญญาสิ่งใด สิ่งนั้นก็จะเกิดขึ้นและเป็นจริงตามนั้น
พระสัญญาของพระเจ้า จะสำเร็จในชีวิตของคนๆ นั้นมากขึ้น
สดด.91:16          เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาว และสำแดงความรอดของเราแก่เขา
ชีวิตของเราจะเป็นเครื่องพิสูจน์คำพูดของเรา

อสย.45:14-17        พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ทรัพยากรของอียิปต์และสินค้ากำไรของเอธิโอเปีย และคนเสบา คนร่างสูง จะมาหาเจ้าและเป็นของเจ้า เขาจะติดตามเจ้า เขาจะติดตรวนมาหาและกราบไหว้เจ้า เขาจะวิงวอนเจ้าว่า พระเจ้าอยู่กับท่านแน่ และไม่มีอื่นใดอีก ไม่มีพระเจ้าอื่น แท้จริงพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงซ่อนพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าแห่งอิสราเอลพระผู้ช่วยให้รอด เขาทุกคนต้องอับอายและขายหน้า ผู้สร้างรูปเคารพก็อดสูไปด้วยกัน แต่อิสราเอลนั้นพระเจ้าทรงช่วยให้รอดด้วยความรอดเนืองนิตย์ เจ้าจะไม่ต้องอับอายหรือขายหน้าตลอดไปเป็นนิตย์
อิสราเอลนั้น ก็หมายถึง คริสเตียนนั้น ผู้เชื่อนั้น พระเจ้าจะช่วยให้รอดด้วยความรอดเป็นนิตย์
นี่จึงเป็นสาเหตุให้คริสเตียนทั่วโลกเจริญเติบโตอย่างมากมาย

3.4 ได้เห็นพระเจ้า คือ เห็นการสำแดงว่าอะไรจะเกิดขึ้น
พระเจ้าทรงสำแดงว่าจะเกิดอะไรขึ้นแก่เรา ลูกของพระเจ้าจึงไม่ต้องปรึกษาหมอดู
เพราะเรามีผู้เผยพระวจนะ เรามีพระคัมภีร์ เรามีของประทานในการสังเกตวิญญาณในคริสตจักร
1คร.12:10              ...และให้อีกคนหนึ่งรู้จักสังเกตวิญญาณต่างๆ...
พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า จะให้เขาสังเกตวิญญาณต่างๆ
เห็นการสำแดงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่เงื่อนไข คือ ใจต้องบริสุทธิ์
ต้องไม่มีตัวเลขกับพระเจ้า ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมกับพระองค์

ก. เปาโล รับการสำแดงให้ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น
กจ.9:1-9                 เปาโล กลับใจเพราะรับการสำแดงจากพระเจ้า
พระเจ้าทรงสำแดงกับเปาโล ทั้งๆ ที่มือเขาเปื้อนเลือด คือ ฆ่าและข่มเหงคริสเตียน
แต่เบื้องหลังการฆ่าและข่มเหงนั้น เพราะเชื่ออย่างสนิทใจว่าคริสเตียนหมิ่นพระเจ้า
พระเจ้าถือว่าเปาโล แม้มือจะเปื้อนเลือด แต่ใจของเราบริสุทธิ์
พระเจ้าจึงเลือกที่จะสำแดงพระองค์เองแก่เขา

กจ.9:15                  ฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสกับท่านว่า จงไปเถิด เพราะว่าคนนั้นเป็นภาชนะที่เราได้เลือกสรรไว้ สำหรับจะนำนามของเราไปยังประชาชาติ กษัตริย์และพวกอิสราเอล เพราะว่าเราจะสำแดงให้เขาเห็นว่า เขาจะต้องทนทุกข์ลำบากมากเท่าใด เพราะนามของเรา
ยังไม่ทันที่เปาโลจะทำอะไร พระเจ้าก็ทรงสำแดงผ่านอานาเนีย (คริสเตียนธรรมดาคนหนึ่งที่ยำเกรงพระเจ้า)
เส้นทางการรับใช้ของเปาโล จะต้องทนทุกข์ทรมานมาก
ก่อนที่เปาโล จะรับใช้พระเจ้า พระองค์เปิดเผยและสำแดงแล้วว่าเขาต้องทนทุกข์เพราะนามพระเจ้า
แต่เปาโล ยอมที่จะรับความทุกข์นั้น เพื่อได้รับใช้พระเจ้า

2คร.12:7                                และเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ายกตัวจนเกินไป เนื่องจากที่ได้เห็นการสำแดงมากมายนั้น ก็ทรงให้มีหนามใหญ่ในเนื้อของข้าพเจ้า หนามนั้นเป็นทูตของซาตานคอบทุบตีข้าพเจ้าเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้ายกตัวเกินไป
มีมนุษย์ไม่กี่คนในโลกที่ได้รับการสำแดงให้เห็นสวรรค์ก่อนตาย เปาโลเป็นหนึ่งในนั้น
การสำแดงมากมายที่เปาโลได้รับนั้น ยังหมายรวมถึงการดลใจให้เขียนพระคัมภีร์ด้วย
ไม่มีใครได้รับการสำแดงมากมายอย่างเปาโล
แต่ที่ท่านได้รับ ก็เพราะท่านมีใจบริสุทธิ์ ท่านบริสุทธิ์ใจต่อพระเจ้า

กจ.20:22-24        นี่แน่ะ บัดนี้พระวิญญาณพันผูกข้าพเจ้า จึงจำเป็นจะต้องไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าที่นั่นบ้าง เว้นไว้แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงเป็นพยานแก่ข้าพเจ้าในทุกบ้านทุกเมืองว่า เครื่องจำจองและความยากลำบากคอยท่าข้าพเจ้าอยู่ แต่ข้าพเจ้ามิได้ถือว่า ชีวิตของข้าพเจ้าเป็นสิ่งที่มีค่าและประเสริฐสำหรับตัวข้าพเจ้า แต่ในชีวิตของข้าพเจ้าขอทำหน้าที่ให้สำเร็จก็แล้วกัน และทำการปรนนิบัติที่ได้รับมอบหมายจากพระเยซูเจ้า คือที่จะเป็นพยานถึงข่าวประเสริฐ ซึ่งสำแดงพระคุณของพระเจ้านั้น
งานที่ท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้า คือ การประกาศกับกษัตริย์ อิสราเอล และประชาชาติ
พระเจ้าจะไม่บอกให้ใครทำอะไร โดยไม่บอกรายละเอียด
แต่ส่วนเราจะทำหรือไม่ ขึ้นกับการตัดสินใจของเรา
เราต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายเราจะพบว่า เมื่อพระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อสู้เราได้
ทุกครั้งที่เรามีปัญหา อย่าหวั่นไหว และอย่าลืมว่าถ้าเรามีใจบริสุทธิ์ เราจะเห็นการช่วยกู้จากพระเจ้า

ข. สาวกได้รับการสำแดงจากพระเจ้า
ลก.24:28-31           เมื่อเขามาใกล้หมู่บ้านที่จะไปนั้น พระองค์ทรงกระทำเหมือนจะทรงดำเนินเลยไป เขาจึงพูดหน่วงเหนี่ยวพระองค์ว่า เชิญท่านหยุดพักกับเราเพราะว่าจวนเย็นแล้ว และวันก็ล่วงไปมาก พระองค์จึงเสด็จเข้าไปเพื่อพักอยู่กับเขา ต่อมาเมื่อพระองค์เสวยพระกระยาหารกับเขา พระองค์ทรงหยิบขนมปังโมทนาพระคุณ แล้วหักส่งให้เขา ตาของเขาก็หายฟางและเขาก็รู้จักพระองค์ แล้วพระองค์ก็อันตรธานไปจากเขา
พระวจนะตอนนี้สอนเรา บ่อยครั้งที่พระเจ้าด้วยอยู่ แต่เราไม่รู้ มองไม่เห็น เพราะเราว้าวุ่นใจ (ใจเร่าร้อนภายใน ลก.24:32)
พระเจ้าอยู่กับเรา ถ้าเรามีใจบริสุทธิ์ กังวลได้ แต่อย่าสงสัยพระเจ้า
จักรวาลพระเจ้าดูแลได้ ตัวเราเล็กนิดเดียว พระองค์ย่อมดูแลได้เช่นกัน

ค. พระเจ้าสำแดงกับโมเสสหน้าต่อหน้า
กดว.12:6-8            พระองค์ตรัสว่า จงฟังถ้อยคำของเรา ถ้าจะมีผู้เผยพระวจนะท่ามกลางเจ้าทั้งหลาย เราพระเจ้าจะสำแดงตัวแก่ผู้นั้นเป็นนิมิต เราจะพูดกับเขาทางฝัน สำหรับโมเสสผู้รับใช้ของเราก็ไม่เป็นเช่นนั้น ในประชาชนของเราเขาสัตย์ซื่อ เราพูดกับเขาปากต่อปากอย่างชัดเจนไม่พูดเร้นลับ และเขาเห็นสัณฐานของพระเจ้า...
สี่จุดห้า กดว.สิบสองข้อหกถึงข้อแปด
มีน้อยคนที่จะรับการสำแดงอย่างตรงไปตรงมา เปิดเผยอย่างโมเสส
การสำแดงตรงไปตรงมากับผู้ใหญ่ เพราะสำแดงกับเด็กเขาจะไม่เข้าใจ

ฟิลิปเลยเรียนแบบโมเสส ขอสำแดงพระบิดาให้เห็น
พระเยซูเลยว่าเราอยู่กับเจ้าตั้งนาน ยังไม่เห็นอีกหรือว่าพระบิดาอยู่ในพระเยซู

พระเจ้าจะสำแดงให้แต่ละคนตามขนาดที่แต่ละคนจะรับได้
สำแดงกับโมเสสได้ ไม่ใช่ว่าจะสำแดงกับเราได้

สี่จุดห อมส.สามข้อเจ็ด
ผู้เผย มีตำแหน่งสูงกว่าปุโรหิต การเจิมแต่งตั้งกษัตริย์ ผู้เผยเป็นคนเจิม
พระเจ้าจะทำอะไร จะเปิดเผยกับผู้เผย แต่พื้นฐานต้องมีใจบริสุทธิ์
เราไม่สมบูรณ์ แต่เราต้องถูกต้องมากขึ้น

สี่จุดเจ็ด สองทธ.สามข้อสิบหกสิบเจ็ด
พระเจ้าดลใจมนุษย์ให้เขียน พระเจ้าดลใจใคร .... ผู้เผยพระวจนะ อัครทูต สองตำแหน่งเท่านั้นที่จะมาเป็นพระคัมภีร์
ไม่ได้หมายถึง ตำแหน่งอื่นไม่สำคัญ แต่วุฒิภาวะของผู้นำสำคัญมาก
เป็นระเบียบการจัดการของพระเจ้าๆ ดลใจ

เผย คือ ทำให้เข้าใจ ทำให้กระจ่าง ไม่ใช่มัวๆ
กจ.แปดข้อยี่สิบหก ... ต้องเผย จึงจะเข้าใจ
เราเป้นลูก ก็เปิดเผยอย่างลูก เราเป็นผู้รับใช้ ก็เปิดเผยอยางผู้รับใช้

สี่จุดแปด ทุกคนอยากเห็นตรงนี้
อสย.หกข้อหนึ่งถึงแปด
เห็นเป็นนิมิต ไม่ใช่ตาเนื้อ ...
คนที่เย่อหยิ่ง จะไม่ได้พบพระเจ้า จะได้พบกับตัวเอง อัตตา
ถ้าเราสำนึกผิด พระเจ้าก็ยกความผิด สำนึกผิด ความผิดก็หลุดจากตัว
ทำผิด แต่ไม่สำนึกผิด ความผิดยังอยู่
(ฝันทุกอย่างไม่ใช่นิมิต) ทางพระเจ้าประกอบด้วยปัญญาๆ มีเหตุผล
แต่นิมตที่มาจากพระเจ้า จะเป็นจริง คนที่รับนิมิตจากพระเจ้า จะไม่พูด
ยิ่งนิมิตใหญ่ ยิ่งไม่พูด ... จนกว่านิมิตนั้นจะสำเร็จ

ใจบริสุทธิ์ ใจสูง

ก. ใจบริสุทธิ์ คนอื่นเห็นปัญหา แต่เราเห็นพระเจ้า (อสย.)
คนที่มีนิมิต จะเห็นโอกาสในทุกวิกฤต คนไม่มีนิมิต จะเห็นวิกฤตในทุกโอกาส
คนอื่นหวั่นไหว แต่อสย.เห็นพระเจ้า

ข. กจ.สิบข้อสามถึงเจ็ด
โครเนลิอัส เห็นนิมิต เพราะเขาใจบริสุทธิ์
เปโตร ไม่ไปหาคนต่างชาติ แต่พระเจ้าเปิดเผยให้เป็นนิมิต
พระเจ้าไถ่ทุกคนให้พ้นคำสาปแล้ว ทุกชาติมีค่าเท่ากัน

เมื่อเราเห็นนิมิต หรือเห็นพระเจ้า เราจะทำสิ่งที่เราไม่คาดคิดว่าเราจะทำได้
เราจะเดินในโลกวิญญาณ

ค. ฮบก.สองข้อสองข้อสาม
เมื่อเราใจบริสุทธิ์ เราจะเห็นกการสำแดง การช่วยกู้  การอัศจนรรย์ เดินในโลกฝ่ายวิญญาณได้มากขึ้น
พระเจ้าจะให้เราเห็น

ยก.สี่ข้อสิบหก ... ถ้าพระเจ้าทรงโปรด

No comments:

Post a Comment